สำหรับการถ่ายภาพแนวพอร์ทเทรต ส่วนตัวไม่ได้ใส่ใจกับการตั้งค่ากล้องเท่าไหร่ เพราะกล้องเดี๋ยวนี้มันฉลาด บางอย่างผมปล่อยให้เป็นอัตโนมัติไปเลย
แต่จะให้ความสำคัญกับแสง และการจัดองค์ประกอบภาพมากกว่า (ประเด็นนี้จะมาเล่าในโอกาสหน้า)
ยกเว้นว่าถ่ายกลางคืน การตั้งค่าก็จะยากขึ้นมาหน่อยโดยใช้โหมด M จะใช้โหมดนี้เป็นต้องเข้าใจความสัมผัสของ รูรับแสง สปีดชัตเตอร์ และ ISO ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน ไม่มีสูตรตายตัว
1. ตั้งค่ากล้องโหมด A
โหมดนี้ผมใช้ประจำสำหรับถ่ายแนวพอร์ทเทรต โดยเน้นเปิดค่ารูรับแสงให้กว้างที่สุด
เช่น เลนส์ 50mm f1.4 ผมก็จะเปิดรูรับแสงที่ f1.4 ไปเลย
สำหรับค่าอื่นๆ สปีดชัตเตอร์ และ ISO ผมจะตั้งเป็น Auto หมด
ถ้าอยากได้ละลายแบบนี้ ก็เลือกใช้เลนส์ฟิกที่มีค่ารูรับแสงกว้างๆ ถ้าจะให้ดีก็ถ่ายมุมย้อนแสงด้วย ฉากหลังจะละลายแบบมีโบเก้
2. ถ่ายรูปไฟล์ JPG
ส่วนใหญ่ผมจะถ่ายรูปเป็นไฟล์ JPG นะ ซึ่งมันก็เป็นค่ามาตรฐานกล้องที่เซ็ตมาแต่แรกอยู่แล้ว
ก็มีบ้างที่ถ่าย RAW ส่วนใหญ่จะเป็นภาพวิวหรืองานกลางคืนที่ต้องดึงรายละเอียด
สำหรับการถ่ายสาวๆจะเลือก JPG ประมาณสัก 99% ของงานทั้งหมด
ถ้าถ่ายรูปคนนานๆทีจะถ่าย RAW ส่วนใหญ่จะถ่ายเพื่อทดสอบ อยากเซ็ตนักศึกษาที่ถ่ายด้วยกล้อง Fuji X-A7 ผมก็จะถ่าย RAW มาด้วย เพื่อนำมารีวิว แค่นั้นแหล่ะ
การถ่ายภาพแนวพอร์ทเทรตเป็นไฟล์ JPG สำหรับผมมันช่วยให้งานเสร็จเร็ว เพราะถ่ายพอร์ทเทรตมันไม่จำเป็นต้องดึงรายละเอียดมาก และโทนผิวจากไฟล์ JPG มันถูกปรับมาให้สวยอยู่แล้วในระดับหนึ่ง
ตรงกันข้ามถ้าถ่าย RAW ทุกอย่างมันดูดิบ กว่าจะทำผิวให้สวยเนี่ยหลายขั้นตอน
3. เลือกโปรไฟล์สี
สำหรับคนที่ถ่ายไฟล์ JPG นะ (ถ่าย RAW ไม่มีผลต่อภาพ)
โปรไฟล์สีที่ใช้ ถ้าเป็นกล้อง..
- Canon EOS R จะเลือกโปรไฟล์สีพอร์ทเทรต
- Sony A7Riii จะเลือกโปรไฟล์สีพอร์ทเทรต
- Fuji X-A7 กับ X-T30 จะเลือกสี Provia (สีมาตรฐาน)
สำหรับกล้องฟูจิ มันจะมีสำหรับถ่ายพอร์ทเทรตอยู่นะ แต่ผมชอบสีมาตรฐานมากกว่า ภาพออกมาดูคมใสถูกใจอยู่แล้ว
ใช้กล้องรุ่นอื่นๆก็ดูเองละกัน ถ่ายแนวพอร์ทเทรต ส่วนใหญ่ก็จะเลือกโปรไฟล์พอร์ทเทรตกันทั้งนั้น ซึ่งจะให้ผิวที่สวยแลพดูนุ่มนวลมากกว่าโปรไฟล์สีอื่นๆ
สีกล้องที่ผมชอบมากที่สุด คือสีจากกล้อง Canon EOS R ถ่ายดีๆนี่แทบจะจบหลังกล้องได้เลย ไฟล์ JPG ก็ยืดหยุ่นอีกด้วย รองลงมาก็เป็น Fuji X-T30
5. เลือกเวลาถ่ายรูปตอนเย็นๆ
นัดถ่ายรูปส่วนใหญ่จะเริ่มตอนเย็นๆ แสงสวย และถ่ายง่าย
เวลาถ่ายรูปย้อนแสงตอนเย็นๆ จะทำให้ย้อนแสงหน้าสว่างได้ด้วย (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้อง)
สำหรับช่วงนี้เป็น “ฤดูหนาว” ช่วงเวลาที่แสงตอนเย็นสวยมากๆ ผมจะนัดนางแบบมาเจอกันเวลา 15:30 เตรียมตัวหรือบางคนจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า กว่าจะเริ่มถ่ายก็ประมาณเกือบ 4 โมงเย็น พอพระอาทิตย์ตกดินก็หยุดถ่ายแล้ว
จริงๆฤดูไหนก็ถ่ายรูปออกมาสวยได้หมด มันอยู่ที่การดีไซน์ภาพ แต่ผมจะชอบฤดูหนาวมากที่สุด เพราะถ่ายง่าย ไม่มีฝน ที่สำคัญอากาศไม่ร้อนมาก
4. ถ่ายรูปโฟกัสที่ตา
ถึงขั้นตอนการถ่ายรูปจะโฟกัสที่ตาให้ชัดๆไว้ก่อน ฉะนั้นถ้าใช้กล้องที่มีฟีเจอร์ Eye AF ก็จะช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้น
ส่วนตัวใช้แต่กล้องมิเรอร์เลสถ่ายรูปพอร์ทเทรต ซึ่งกล้องเดี๋ยวนี้มีฟีเจอร์นี้แทบทุกตัวอยู่แล้ว
อย่างอื่นไม่ชัดไม่เป็นไร แต่ตาขอชัดไว้ก่อน เพราะถ้าตาชัดก็ถือว่าภาพชัด เพราะสำหรับแนวพอร์ทเทรต ดวงตาเป็นจุดสื่ออารมณ์ที่ชัดที่สุด
6. เน้นรูปย้อนแสง
อันนี้ถือเป็น “รสนิยมส่วนตัว” ส่วนใหญ่ผมจะถ่ายย้อนแสง เวลาละลายหลังมันจะมีโบเก้ ภาพจะดูละมุนๆ
แต่ก็มีบ้างที่ให้นางแบบหันหน้าเข้าหาแสง ซึ่งก็แล้วแต่แนวของภาพในเซ็ตนั้นๆ
ในกรณีที่ให้แบบหันหน้าเข้าหาแสง ส่วนใหญ่จะเป็นแนวสตรีทหรือแนวดาร์ก
7. เปลี่ยนเลนส์ไปตามสถานการณ์
เคยได้ยินมั้ย ทำไมถึงมีช่างภาพถ่ายรูปนางแบบออกมาหน้าบาน ถ่ายออกมาแล้วดูเตี้ยบ้าง อ้วนบ้าง
ทั้งหมดนี้ผมแก้ด้วย “เทคนิคการใช้เลนส์” เช่น
- บางคนที่ดูอวบๆหน่อย จะใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายให้เขาไปเลย พอวางองค์ประกอบดีๆคนจะดูผอมลง
- บางคนรูปร่างดีอยู่แล้ว แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูเตี้ย ก็จะเปลี่ยนไปใช้เลนส์เทเล
เวลาถ่ายภาพนอกจากการจัดองค์ประกอบ เช่น ฉากหลัง แสง โทนสีต่างๆ สิ่งที่ผมให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ “ความดูดีของนางแบบ” โดยพยายามมองหามุมที่เขาดูสวยที่สุด
อย่างเลนส์ 18mm f2 บนกล้องฟูจิ จริงๆมันไม่น่าจะเอามาถ่ายพอร์ทเทรตได้ แต่เอามาถ่ายบางคนแล้วมันดูดีกว่าใช้เลนส์พอร์ทเทรตอย่าง 85mm บนกล้องฟูลเฟรม
ปล. การเลือกใช้เลนส์ตามสถานการณ์ จะทำให้แบบดูดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนจากอ้วนเป็นผอมเพรียวได้ ..ย้ำว่าแค่ดูดีขึ้น
ยังเหลือ “เทคนิคจัดองค์ประกอบ”
อันนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการถ่ายรูป ..ไว้โอกาสหน้า ว่างๆจะมาเขียนบอก “เทคนิคส่วนตัว”
ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีของใครของมัน แม้ว่าจะมี “ทฤษฏีสอน” แต่ช่างภาพก็จะประยุกต์ให้เป็นของตัวเอง
เทคนิคถ่ายรูปก็เหมือนๆสูตรทำอาหาร บนเน็ตก็มีสอน แต่คุณไปกินกับข้าวของแต่ละร้านเขาจะทำไม่เหมือนกัน รสชาติแตกต่างกันไป เพราะสุดท้ายเขาก็จะทำให้เป็นรสชาติของตัวเอง
และขอย้ำอีกครั้ง 7 ข้อที่ว่ามา เป็น “เทคนิคส่วนตัว” ไม่ใช่ทฤษฏีที่ต้องปฏิบัติตาม
