ผมเป็นคนที่ไม่ถนัดระยะเทเล ไม่คิดด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งจะได้ซื้อเลนส์ Sigma 135mm f1.8 Art มาใช้งานกับกล้อง Canon EOS R / RP ตอนนี้แอบติดใจ เพราะถ่ายคนออกมาได้สวยมาก
ราคาเลนส์
- Sigma 135mm f1.8 Art ราคาประศูนย์ 44,900 บาท
- Sigma 135mm f1.8 Art ราคาประกันร้าน 34,900 บาท
สเปค
- ทางยาวโฟกัส 135mm
- รูรับแสง f1.8 – f16
- โฟกัสไกล้สุด 87.5 cm
- มุมรับภาพ 18.2°
- ขนาดฟิลเตอร์ ø82mm
- น้ำหนัก 1130 กรัม
ในรูปเซ็ตนี้ ผมใช้ทั้ง R และ RP นะ
ในส่วนของ RP ต้องติดกริปด้วยนะถึงจะจับถนัดขึ้น
เหตุผลที่ซื้อ Sigma 135mm f1.8 Art
- เดิมทีผมเล็งๆ RF 70-200 f2.8 แต่เปิดราคามา 90,900 บาท ซึ่งมันแพงมาก ส่วนตัวพอที่จะซื้อได้อยู่นะ แต่ที่ไม่ตัดสินใจซื้อเพราะกลัวว่าจะใช้ไม่คุ้ม ที่อยากได้ 70-200mm เพราะจะเอามาถ่ายแคนดิตในพิธีบรวงสวงกรมหลวงฯ ที่จังหวัดอุดรธานี และเผื่อจะใช้ในโอกาสอื่นๆ เช่น กีฬาสี งานประกวด
- แต่การใช้กล้องกว่า 90% ของผมคือการถ่ายพอร์ทเทรต อีก 10% ที่เหลือคือการถ่ายวิว ธรรมชาติ และแนวคาเฟ่ แต่ปีนี้จะเริ่มถ่ายแนวอื่นๆมากขึ้น เช่นพวกเวทีประกวดต่างๆ ก็เลยสนใจ 70-200mm
- แต่ไปๆมาๆ มาจบที่ 135mm เพราะเป็นระยะเทเลที่เอามาพอร์ทเทรตได้สะดวกกว่า ถ่ายแคนดิตก็ได้ แม้ว่าจะเป็นเลนส์ฟิก แต่กล้องฟูลเฟรม EOS R / RP ที่ผมใช้อยู่ทั้งสองตัว มันมีโหมด APS-C มันจะคูณระยะไปอีก 1.6 ก็เหมือนได้ใช้เลนส์ 2 ระยะ คือ 135mm กับ 216mm ส่วนตัวไม่ซีเรียสกับโหมดครอป เพราะชินกับกล้อง APS-C อยู่แล้ว
- อนาคตอาจจะได้จัด EF 70-200 mm. F4L IS II มาเพิ่ม การถ่ายภาพแนวๆอีเว้นท์ มันไม่ใช่งานหลักผมอยู่แล้ว F4 บนกล้องฟูลเฟรมอยู่ในเกณฑ์ที่ผมพอรับได้ สำหรับคนอย่างผมตัวนี้น่าจะเพียงพอแล้ว
- อีกเหตุผลคือ มั่นใจในคุณภาพของ Sigma ที่เป็นเลนส์ Art ผมมี 35mm 50mm และ 135mm เป็นเลนส์ Sigma Art ตัวที่สามแล้ว อนาคตอาจจะได้จัด 24mm ไม่ก็ 24-70 f2.8 มาเพิ่ม คงไม่ได้จัดเลนส์ของค่าย เพราะเลนส์ RF มีแต่ตัวแพงๆ
ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองของคนที่ไม่ได้ถนัดระยะเทเล ก็เลยเลือกอะไรที่มันเซฟๆไว้ก่อน เน้นเอามาใช้งานได้ที โดยเฉพาะกับการถ่ายพอรน์ทเทรต
แต่อนาคตอีกไกลๆก็คงได้จัด 70-200 มาเพิ่มอยู่ดี เพราะเลนส์ฟิกมันใช้แทนซูมไม่ได้อยู่แล้ว
การถ่ายภาพ
ระยะ 135mm ใช้ยากมั้ย ?
ตอนที่ใช้งานครั้งแรกเลย รู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่เคยใช้เลนส์ที่ละลายหลังมากขนาดนี้
แต่มันก็ต้องแลกมากับระยะที่ไกลขึ้น ปกติผมใช้เลนส์ระยะ 50mm เป็นหลัก ส่วนระยะ 85 ไม่ค่อยได้ใช้เลย ไม่ได้ติดใจกับระยะนี้เท่าไหร่ พอมาเป็นระยะ 135 รู้สึกว่าจะต้องใช้พื้นที่เยอะมาก
มันเป็นเลนส์ที่เหมาะกับใช้งานกลางแจ้ง มากกว่าในอาคาร ถ้าจะถ่ายสตูก็ต้องเป็นห้องใหญ่ๆ
ความยากมันเลยขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จะเอาไปใช้ถ่าย กว้างๆนี่ถ่ายสนุกเลย แต่ในการถ่ายรูปบางมุม มันทำไม่ได้แบบที่ผมเคยถ่ายได้
ถ่ายคนสวย
คนที่สวยอยู่แล้ว ใช้เลนส์อะไรก็ถ่ายออกมาสวย แต่เลนส์ระยะ 135 ทำให้คนสวยแบบกลางๆ ดูสวยขึ้นมาอีกระดับ
ความรู้สึกของผมคือ รูปหน้านางแบบเขาดูดีขึ้น เคยใช้เลนส์ตัวอื่นๆ ถ่ายนางแบบคนเดียวกันมาแล้ว พอเปลี่ยนมาเป็นเลนส์ตัวนี้มันทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาสวยขึ้นจริงๆ
ถ้าว่าตามประสบการณ์ 50mm แม้ว่าจะเป็นระยะที่ผมชอบที่สุด แต่คิดไม่ค่อยเหมาะกับการถ่ายสาวที่สุด คนจะดูเตี้ย ดูตันๆ ส่วน 85 ทำให้ดูดีขึ้นมาหน่อย แต่พอมาเป็น 135 รูปหน้าและหุ่นดูดีขึ้นเยอะ
ส่วนตัวเวลาถ่ายคนก็ใด้เลนส์หลายระยะอยู่นะ 24 กับ 35 ก็ใช้บ้าง แต่เลนส์มันก็จะให้สัดส่วนรูปหน้าคนแตกต่างกันไป
ผมชอบรูปหน้าคนจากเลนส์ 35 กับ 135 มากสุด
ละลายสุดๆ
ถือว่าเป็นเลนส์ที่สุดของการละลายหลังตัวหนึ่ง ซึ่งมันมีประโยชน์มากนะ เวลาออกไปถ่ายรูปในสถานที่มีคนเดินไปมาเยอะแยะเต็มไปหมด ก็ยังทำให้แบบที่ถ่ายดูโดดเด่นได้
อย่างรูปนี้ ไปถ่ายรูปที่งานพิธีบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์ฯ ข้างหลังจะเห็นว่ามีคนเต็มไปหมดเลย แต่พลังการละลายหลังทำให้แบบดูโดดเด่น จากรูปนี้เปิดที่ f1.8
โบเก้วงรี
ยังไม่ได้ลองถ่ายโบเก้แบบจริงจัง แต่ถ้าเปิดที่ f1.8 จะได้ภาพประมาณนี้
ระยะแคนดิด
พอร์ทเทรตก็ได้ ถ่ายแคนดิดก็ดี ถ้าใช้โหมด APS-C จะคูณระยะไปอีก 1.6 จะได้ระยะ 216mm พอที่จะถ่ายภาพบนเวทีได้ เพียงแต่ว่ามันจะไม่สะดวกเท่ากับการใช้เลนส์ซูม
ความคม
คุณภาพที่ได้ดีสมราคา ถ้าเคยใช้เลนส์ ART ตัวอื่นๆมาก่อน ไม่ต้องมาห่วงประเด็นนี้
ภาพดูใส ถ่ายย้อนแสงไม่ฟุ้ง เลนส์ตัวไหนคุณภาพดีไม่ดี ลองเอาไปถ่ายย้อนแสงรู้เรื่องเลย
ในส่วนของ “ขอบม่วง” ไม่เคยเจอเลยนะครับ ..แต่ทั้งนี้ผมถ่าย JPG ทั้ง EOS R / RP เวลาประมวลผลเป็นภาพออกมา ถ้ามีมันจะช่วยจำกัดส่วนนี้ออกไปด้วย
ขนาดว่าใช้ EF 85mm f1.8 ยังไม่เจอขอบม่วงเลย แต่ถ้าถ่าย RAW ก็ไม่แน่นะ
โทนผิว
ภาพคมใส ผิวดูสวย แต่ไม่ใช่แบบสวยเนียนแบบเลนส์ค่าย มันจะเป็นอีกคาเรคเตอร์หนึ่ง แต่ผมชอบนะ ไม่งั้นคงไม่ได้ซื้อเลนส์ Art มาเป็นตัวที่ 3
ถ่ายรูปกลางคืนวืดบ่อย
ถ่ายรูปกลางวันไม่ค่อยมีปัญหานะ โฟกัสเข้าปกติดี แต่ถ่ายกลางคืนมีวืดบ่อย
ต่างกับ Sigma ตัวอื่นๆที่ผมใช้อยู่ ถ่ายที่แสงน้อยไม่ค่อยวืด
แอบคิดถึงระยะ 85
พอใช้ 135 หลายๆมุมจะถ่ายไม่ได้แบบที่เคยทำได้ วิธีสร้างสรรค์มุมก็เลยต่างกัน เพราะต้องถอยไกลมาก ..ถ้าใช้ 85 จะไม่ลำบากขนาดนี้
แต่ความสนุกการใช้งานมันต่างกัน 135 ให้ความสุด ทั้งการละลายหลัง รูปร่างนางแบบ ส่วน 85 ได้ความสะดวก ใช้งานได้หลากหลาย
หนัก
น้ำหนัก 1.1 กิโล เอาเรื่องอยู่นะ ตอนถ่ายต้องใช้มือประคองเลนส์ด้วย
จริงๆไม่มีเลนส์ Art ตัวไหนเบาอยู่แล้ว ไหนจะต่ออะแดปเตอร์อีก
การใช้คู่กับ Canon EOS R / RP
ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร มีวืดในที่แสงน้อยเท่านั้น
และนี่เป็นกล้องมิเรอร์เลส ไม่ต้องจูนเลนส์ ถ้าโฟกัสเข้ายิงเข้าได้ชัวร์ๆ
สรุปการใช้งาน
- รู้สึกติดใจระยะ 135mm แม้จะถอยไกลหน่อย แต่ได้ความสนุกในการหามุมใหม่ๆ
- สาวๆต้องชอบ ถ่ายคนไม่อ้วน
- คุณภาพไม่มีอะไรน่าห่วง ให้ภาพคมใสได้มา๖รฐาน Sigma Art
- มีวืดบ้าง โดยเฉพาะตอนถ่ายกลางคืน
- เลนส์ระยะนี้ ถ้าจะเป้นสายน้าต้องได้ลองสักครั้ง จากนั้นจะชอบไม่ชอบก็อีกเรื่อง
ตัวอย่างภาพ (แต่งรูปแล้ว)